• Home
  • เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
Fangfang Notes
  • Home
  • เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
No Result
View All Result
  • Home
  • เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
No Result
View All Result
Fangfang Notes
No Result
View All Result
Home เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์

เทคนิคการใช้ Body Language ในการเรียนภาษาอังกฤษ

by Fangfang
กรกฎาคม 25, 2025
Reading Time: 1 min read
girl, lovely, smile, happy, sweet, childhood, child, carefree, kid, toddler, portrait, pink, purple, girl, smile, smile, happy, happy, happy, happy, happy
Share on FacebookShare on Twitter

“ยังพูดไม่ได้เต็มประโยค จะสื่อสารยังไงดี?” “เวลาคุยกับครูต่างชาติ ลูกใช้แค่มือกวัดแกว่ง ไม่รู้จะพูดยังไง” “เรียนภาษาอังกฤษมา 6 เดือน ยังไม่มั่นใจเวลาโต้ตอบเลย”

หลายครอบครัวที่ให้ลูกเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็กจะเจอคำถามเหล่านี้บ่อย ๆ ค่ะ โดยเฉพาะช่วงแรกที่คำศัพท์ยังจำไม่เยอะ หรือยังไม่กล้าพูดแบบเต็มเสียง สิ่งหนึ่งที่ช่วยเสริมให้การสื่อสารเป็นธรรมชาติขึ้นได้ทันทีคือ Body Language หรือภาษากายนั่นเอง

บทความนี้จะมาเจาะลึกว่า

  • เด็กใช้ Body Language ในการเรียนภาษาอังกฤษได้ยังไง?
  • เทคนิคที่พ่อแม่และครูควรสนับสนุนมีอะไรบ้าง?
  • และเรียนภาษาอังกฤษแบบไหนที่ทำให้ “การใช้ภาษากาย” พัฒนาควบคู่ไปกับการพูด

พร้อมแนะนำคอร์สเรียนที่บ้านเราลองแล้วเวิร์คมากสำหรับเด็กเล็ก → ตัวต่อตัวกับครูต่างชาติผ่านออนไลน์จากบ้านเลย คลิ๊กลองเรียนฟรีที่นี่ก่อน

 

เทคนิคการใช้ Body Language ในการเรียนภาษาอังกฤษ
เทคนิคการใช้ Body Language ในการเรียนภาษาอังกฤษ

ดัชนี

Toggle
  • ทำไม Body Language ถึงสำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษ?
  • พัฒนาการของ Body Language กับการเรียนภาษา
  • ตัวอย่างเทคนิคการใช้ Body Language ที่สอนง่ายและได้ผล
  • ประโยชน์ที่เห็นชัดเมื่อใช้ Body Language ในการเรียนภาษาอังกฤษ
  • กิจกรรมฝึก Body Language ที่บ้านง่ายๆ
  • แล้วเรียนกับครูไทยหรือครูต่างชาติดีกว่ากัน?

ทำไม Body Language ถึงสำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษ?

สำหรับเด็กเล็ก (และผู้ใหญ่ที่ยังไม่คล่อง) ภาษากายคือ “ระบบสื่อสารสำรอง” ที่ช่วยเติมช่องว่างระหว่างคำศัพท์ที่ยังพูดไม่ได้ เช่น…

  • ใช้นิ้วชี้ประกอบคำว่า “This is my toy.”
  • ยิ้มและพยักหน้าเมื่อพูดว่า “Yes!”
  • ทำหน้าตาเศร้าเมื่อพูดว่า “I’m sad.”

นักจิตวิทยาการเรียนรู้พบว่าเด็กวัย 3–10 ปี จะเข้าใจคำพูดได้ดีขึ้น เมื่อมี “ภาพประกอบ” และ “การเคลื่อนไหว” ร่วมด้วย ดังนั้นเมื่อเด็กเรียนภาษาอังกฤษ ถ้าเขาไม่เข้าใจคำบางคำ เขาจะดูจากสีหน้า ท่าทาง และสภาพแวดล้อมเพื่อเดาความหมายค่ะ

การฝึกใช้ Body Language ไม่ใช่แค่ทำให้เด็ก “ดูเข้าใจ” แต่ยังทำให้เขา “กล้าแสดงออก” และใช้ภาษาพูดตามมาได้เร็วขึ้นด้วย

 

เทคนิคการใช้ Body Language ในการเรียนภาษาอังกฤษ
เทคนิคการใช้ Body Language ในการเรียนภาษาอังกฤษ

พัฒนาการของ Body Language กับการเรียนภาษา

🎈 วัยเริ่มต้น (3–6 ปี)

เด็กยังพูดไม่คล่อง แต่มีพลังในการสื่อสารสูงมาก พวกเขาใช้มือ หน้าตา และการชี้ประกอบคำพูดเสมอ เช่น

  • กางมือ = big
  • หุบมือ = small
  • ชี้หน้า = you
  • ชี้ตัวเอง = me

พ่อแม่สามารถเสริมพฤติกรรมเหล่านี้ได้โดย

  • พูดคำศัพท์พร้อมทำท่าทาง
  • เล่นเกมที่มีการเคลื่อนไหวร่วม
  • ทำกิจกรรมเลียนแบบ เช่น “Fly like a bird!”

🧠 วัยประถมต้น (7–10 ปี)

เริ่มพูดได้มากขึ้น แต่ยังต้องพึ่งภาษากายในการแสดงอารมณ์และความตั้งใจ เช่น การขมวดคิ้วเมื่อไม่เข้าใจ หรือยิ้มเมื่อได้คำชม

ครูและพ่อแม่สามารถฝึกให้เด็ก “ใช้ภาษากายอย่างมั่นใจ” โดยการ

  • ชวนให้ใช้ท่าทางประกอบทุกคำ
  • เปิดคลิปครูต่างชาติที่ใช้ gesture ชัดเจน
  • ให้เด็กเล่าเรื่องโดยใช้ท่าทางช่วย

 

เทคนิคการใช้ Body Language ในการเรียนภาษาอังกฤษ
เทคนิคการใช้ Body Language ในการเรียนภาษาอังกฤษ

ตัวอย่างเทคนิคการใช้ Body Language ที่สอนง่ายและได้ผล

✅ใช้มือประกอบการอธิบาย

คำบางคำที่เด็กยังพูดไม่ได้ สามารถใช้มือช่วยได้ เช่น

  • มือขยับขึ้นลง = jump / dance
  • มือชี้ซ้าย–ขวา = left / right
  • มือกอดตัวเอง = cold
  • มือโบกไปมา = bye / no

เทคนิค: ให้เด็กพูดคำพร้อมทำท่าทาง เช่น “Jump!” แล้วกระโดดตาม เด็กจะจำคำศัพท์ได้แม่นขึ้น และกล้าพูดตามโดยไม่ต้องแปล

✅ใช้ใบหน้าสื่ออารมณ์

ใบหน้าคือเครื่องมือสื่อสารที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องใช้คำ ลองฝึกให้เด็กแสดงสีหน้าตามคำ เช่น

  • Smile = happy
  • Frown = sad
  • Open mouth = surprise
  • Eyebrows up = curious

เทคนิค: เล่นเกม “face match” โดยให้ดูภาพคำศัพท์ แล้วทำหน้าตาตาม นอกจากเข้าใจความหมายแล้ว เด็กจะเริ่มใช้คำตามสีหน้าอย่างมั่นใจขึ้นค่ะ

✅ใช้ท่าทางนำบทสนทนา

เวลาเด็กพูด “I want…” → ชี้สิ่งที่ต้องการไปเลย หรือพูด “That’s mine!” → ชี้นิ้วที่ตัวเอง ครูและพ่อแม่ควรส่งเสริมโดยพูดตาม+ถามกลับ เช่น

“Oh, you want the red book?” → สร้างความมั่นใจว่าเขาพูดถูก

เทคนิค: ฝึก role play สถานการณ์ เช่น “shopping / school / zoo” แล้วให้เด็กพูดพร้อมใช้มือและใบหน้าช่วย

 

ประโยชน์ที่เห็นชัดเมื่อใช้ Body Language ในการเรียนภาษาอังกฤษ

  • จำคำศัพท์เร็วขึ้น เพราะจับคู่เสียงกับท่าทางได้
  • กล้าพูดมากขึ้น เพราะรู้ว่ามีวิธีสื่อสารอื่นรองรับ
  • เข้าใจครูต่างชาติง่ายขึ้น เมื่อครูใช้ gesture ประกอบคำ
  • ตอบคำถามไวขึ้น แม้พูดยังไม่คล่อง ก็สื่อได้ด้วยมือ
  • สนุกกับการเรียน เพราะคลาสดูเหมือนการแสดง มากกว่าท่องจำ

บ้านเราลองใช้เทคนิคนี้ควบคู่ไปกับการเรียนตัวต่อตัวผ่าน 51Talk เพราะครูที่นั่นใช้ Body Language เยอะมาก โดยเฉพาะกับเด็กเล็ก เช่น ใช้ท่าชูนิ้วตอนนับเลข ใช้ภาพประกอบเสมอ และหัวเราะพร้อมแสดงสีหน้าทุกครั้งที่เด็กตอบดี เด็กเลยซึมซับได้เร็ว แล้วก็ “กล้าทำตาม” โดยไม่ต้องบอกซ้ำ

 

💡 ลองดูระบบเรียนแบบนี้ที่บ้านเราใช้ได้เลยค่ะ  คลิกดูคลาสทดลองฟรีของ 51talk

 

กิจกรรมฝึก Body Language ที่บ้านง่ายๆ

1.เกม “พูดพร้อมท่า”

คุณพ่อคุณแม่ตั้งคำง่าย ๆ เช่น walk / jump / eat / cry แล้วให้ลูกทำท่าพร้อมพูด เด็กจะจำคำได้แม่นขึ้นจากท่าทางที่ทำซ้ำ

2.เกม “แสดงอารมณ์จากคำ”

พูดคำว่า happy / sad / angry / scared แล้วให้ลูกทำหน้าตาตาม จากนั้นสลับเป็น “แม่ทำหน้า → ลูกทายคำ” ก็ได้

3.เกม “คำใบ้ด้วยมือ”

ให้ลูกใช้มือใบ้คำ เช่น กล้วย → ทำท่ากินผลไม้ แม่ลองทายว่า “Is it banana?” → เด็กจะสนุก + ได้ฝึกสื่อสารไม่ใช้เสียง

 

แล้วเรียนกับครูไทยหรือครูต่างชาติดีกว่ากัน?

คำตอบคือ อยู่ที่ “ท่าทางของครู” ค่ะ ถ้าครูไทยใช้ภาษากายเก่ง → เด็กก็จะเรียนรู้ได้ดี แต่ถ้าอยากให้เด็ก “ฝึกสำเนียง + ฝึกดู gesture แบบธรรมชาติของเจ้าของภาษา” ก็แนะนำให้เรียนกับครูต่างชาติเลยค่ะ

บ้านเราเลือกครูฟิลิปปินส์ในระบบของ 51Talk เพราะพูดช้า สำเนียงดี และใช้ภาษากายตลอดเวลา เด็กเข้าใจโดยไม่ต้องแปล เช่นครูพูดว่า “Clap your hands!” แล้วตบมือไปด้วย เด็กก็ทำตามทันทีแม้ไม่รู้คำว่า “Clap”

บทความที่เกี่ยวข้อง

book, read, woman, reading glasses, eyeglasses, bookwork, reading, girl, library, study, student, literature, learn, school, college, clever, smart, intelligence, intelligent, read, reading, reading, reading, reading, study, study, study, student, student, student, student, student, learn, school, school, college, smart, smart, smart, intelligent, intelligent
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์

เทคนิคการฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษที่ถูกต้องสำหรับเด็ก

กรกฎาคม 24, 2025
distance learning, education, online, service, teacher, online courses, correspondence, remote learning, through the internet, services, teacher online, online tutor, school online, teacher, teacher, online courses, online courses, online courses, online tutor, online tutor, online tutor, online tutor, online tutor
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์

เริ่มเรียนกับครูต่างชาติ ยังกลัวลงทุนแพง?

กรกฎาคม 23, 2025
people, kid, child, cute, happy, smile, orange happy, orange smile, orange happiness, people, people, people, kid, kid, kid, child, happy, happy, happy, happy, smile, smile, smile, smile, smile
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์

แชร์วิธีเรียนภาษาอังกฤษให้เด็กเข้าใจเร็ว

กรกฎาคม 22, 2025
child, kid, study, write, whiteboard marker, alone, black and white
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์

2 ทางเลือกเรียนอังกฤษออนไลน์ให้ลูกพูดได้จริง!

กรกฎาคม 21, 2025

เกี่ยวกับฉัน

เกี่ยวกับฉัน

fangfang

สวัสดีค่ะ ฟางฟางเองนะคะ บล็อกนี้เป็นพื้นที่เล็ก ๆ สำหรับบันทึกการเรียนรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษในยุคออนไลน์ ฟางฟางไม่ได้เป็นครู ไม่ใช่นักวิชาการ แต่อยากแบ่งปันเรื่องราว เทคนิคน่าสนใจ และประสบการณ์รอบตัวที่เกี่ยวกับ “การเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์” โดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ หรือคนที่เพิ่งเริ่มต้น

Email:Nattakitta@51talk.com

  • Home
  • เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
Email:Nattakitta@51talk.com
No Result
View All Result
  • Home
  • เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์